ติดแก๊สรถยนต์ ในสภาวะที่ราคาน้ำมันยังคงพุ่งทะยานปรับขึ้นเรื่อยๆ และคาดว่าน่าจะยังคงปรับขึ้นต่อไป ถึงแม้จะมีรถยนต์ไฟฟ้า แต่ก็ยังมีข้อจำกัด การติดแก๊สรถยนต์จึงยังตอบโจทย์สำหรับกลุ่มคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย
ติดแก๊สรถยนต์ ในสภาวะที่ราคาน้ำมันยังคงพุ่งทะยานปรับขึ้นมาเรื่อย ๆ ทีละเล็กละน้อยและคาดว่าน่าจะยังคงปรับขึ้นต่อไป
ถึงแม้จะมีเทคโนโลยีใหม่ อย่างเช่น รถยนต์ไฟฟ้า เข้ามาเป็นทางเลือก แต่ก็ยังคงมีข้อจำกัด ในเรื่องของราคาที่ค่อนข้างสูงและตัวเลือกยังไม่มากนัก
ดังนั้น การติดแก๊สรถยนต์ จึงยังตอบโจทย์สำหรับกลุ่มคนที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายในยุค "น้ำมันแพง"
“รถติดแก๊ส” ประโยคนี้ที่น่าจะคุ้นหูกันมาก และคงเคยได้ยินกันมามากกว่า 10 ปีแล้ว นั่นคือการที่เราเอารถยนต์ไปติดตั้งระบบจ่ายพลังงานเชื้อเพลิงด้วยแก๊ส ไม่ว่าจะเป็นแบบแก๊ส NGV หรือแก๊ส LPG ที่นิยมกันในประเทศไทย ซึ่งทำให้รถยนต์ของคุณเปลี่ยนจากการใช้พลังงานน้ำมันมาใช้พลังงานจากแก๊สแทน แต่ก็ยังสามารถใช้ระบบน้ำมันควบคู่หรือใช้ในยามฉุกเฉินได้เช่นเดิม ดังนั้น ปัจจุบันหลายคนจึงยังคงสนใจเลือกนำรถยนต์ไปติดแก๊ส และวิธีนี้ก็ได้รับความนิยมค่อนข้างสูง เพราะด้วยราคาแก๊สที่ถูกกว่าน้ำมัน รวมถึงการวิจัยและพัฒนาระบบติดตั้งซึ่งได้มาตรฐานเพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดความคุ้มค่าและช่วยเพิ่มความมั่นใจในการใช้รถติดแก๊สมากขึ้น
หลายคนที่ยังมีความเชื่อเก่า ๆ สมัยเมื่อ 10-20 ปีที่แล้วว่าอย่าเอารถไปติดแก๊ส เพราะกลัวใช้แล้วเจอปัญหาจุกจิก ซ่อมบ่อย ซ่อมแพง! แต่ ณ ปัจจุบันด้วยระบบเทคโนโลยีและอุปกรณ์ที่ใช้ในการติดตั้งแก๊ส LPG ในรถยนต์ ได้ถูกพัฒนาให้มีประสิทธิภาพและมาตรฐานสูงขึ้น ตามวิวัฒนาการของเทคโนโลยีรถยนต์ เพื่อให้สามารถติดตั้งได้ในรถยนต์รุ่นใหม่ ๆ และตอบโจทย์การใช้งานได้มากที่สุด คือได้ทั้งความประหยัด สมรรถนะ อัตราเร่ง ที่ดีขึ้น (ไม่ดรอปเหมือนสมัยก่อน) เป็นต้น ทำให้ระบบแก๊สยุคนี้ไม่จุกจิกเหมือนแต่ก่อน นอกจากนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลบำรุงรักษา ซึ่งไม่ได้ยากอย่างที่คิดและแทบไม่ได้แตกต่างจากการดูแลซ่อมบำรุงเครื่องยนต์ปกติ ดังนั้น ปัญหาการใช้งานรถติดแก๊ส lpg จะเกิดขึ้นหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ 3-4 ปัจจัยเหล่านี้ ซึ่งจะช่วยทำให้คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายครั้งละมาก ๆ ในการซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนอุปกรณ์ อาทิ
1.) ระบบเทคโนโลยีของ "ชุดแก๊ส" ที่ติดตั้งเหมาะสมกับเครื่องยนต์หรือไม่?
2.) อุปกรณ์แก๊สที่ติดตั้ง มี่คุณภาพได้มาตรฐานหรือไม่?
3.) การติดตั้งและสถานที่ติดตั้ง ได้มาตรฐานหรือไม่?
4.) คุณหมั่นตรวจสภาพ, เช็คระยะซ่อมบำรุง ทั้งระบบเครื่องยนต์และระบบแก๊ส เป็นประจำตามกำหนดหรือไม่?
เป็นต้น
สำหรับ รถติดแก๊ส lpg มาตรฐานอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์ ตลอดจนมาตรฐานของถังแก๊ส จะถูกกำหนดด้วยมาตรฐาน 2 ส่วน คือ 1.มาตรฐาน ECE 67R-01 เป็นมาตรฐานของต่างประเทศ (มาตรฐานยุโรป) ดังนั้น ถังแก๊สหรืออุปกรณ์แก๊สที่นำเข้ามาจากต่างประเทศต้องมีมาตรฐานนี้ และ 2.มาตรฐาน มอก.370/… เป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศไทย ดังนั้น การเลือกใช้อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์ จึงควรเลือกอุปกรณ์ที่ผ่านการทดสอบและได้รับรองมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด
ปัจจุบันมีชุดแก๊สให้เลือกหลากหลายยี่ห้อ ซึ่งล้วนมีมาตรฐาน ระบบเทคโนโลยี และระดับราคาค่าติดตั้งแตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องดูว่าอุปกกรณ์แก๊สแต่ละรุ่น/ยี่ห้อ ได้ถูกพัฒนาให้เหมาะกับการติดตั้งกับเครื่องยนต์ของรถคุณหรือไม่? สำหรับตัวอย่าง ชุดอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่นิยมในปัจจุบัน อาทิ อุปกรณ์ติดตั้งแก๊สของยี่ห้อ "Prins" ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในแบรนด์ผู้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีติดตั้งแก๊สรถยนต์มาตรฐานสากล (ประเทศเนเธอแลนด์) เป็นที่รู้จักในตลาดต่างประเทศ มานานกว่า 35 ปี ในฐานะ "Word Leader in Alternative fuel systems" ทั้งในยุโรป อเมริกา เอเชีย รวมถึงในประเทศไทย
จุดเด่นของ Prins คือ การพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี ซอฟต์แวร์ และอุปกรณ์ติดตั้งแก๊ส ทั้นสมัยตลอดเวลา ทั้งระบบ LPG และ CNG อย่างต่อเนื่อง ร่วมกับอู่ติดตั้งแก๊สชั้นำทั่วโลก เพื่อให้ได้ระบบแก๊สที่เป็นโซลูชั่นคุณภาพสูงออกมาตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งช่วยแก้ไขจุดอ่อนของรถแต่ละรุ่น ให้ใช้งานระบบแก๊สได้อย่างสมบูรณ์ เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในทุกด้าน ทั้งความประหยัด สมรรถนะ อัตราเร่ง ไม่แตกต่างจากน้ำมัน