รีวิว Mazda2 (รุ่นธรรมดา) ติดแก๊ส Prins สำหรับการติดตั้งแก๊ส Prins จุดเด่นคือเป็นอุปกรณ์แก๊สมาตรฐานระดับสูงในตลาด
สำหรับการติดตั้งแก๊ส LPG ในรถยนต์ Mazda2 (มาสด้า 2 ติดแก๊ส) ทั้งรุ่น 4 ประตูและ 5 ประตู พื้นฐานของรถเป็นครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ DOHC ขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 103 แรงม้า ระบบหัวฉีดอีเล็คทรอนิกส์แบบมัลติพอยท์ (MPI) สามารถติดตั้งระบบแก๊ส LPG ได้โดยไม่มีปัญหา รวมถึงมีลูกค้านำรถมาติดตั้งแก๊สกับทางร้านแล้วจำนวนมาก นอกจากนั้น สิ่งสำคัญคือที่ผ่านมา หงษ์ทองแก๊ส มีการวิจัยการติดตั้งระบบแก๊ส ตลอดจนทดสอบและปรับจูนในรถทุกรุ่น จนได้ผลลัพธ์ในจุดที่สมบูรณ์ที่สุด ก่อนติดตั้งจริงในรถลูกค้า ทำให้เราเข้าใจกลไกการทำงานของเครื่องยนต์ การจ่ายเชื้อเพลิง และระบบต่าง ๆ ของรถเป็นอย่างดี ประกอบกับมาตรฐานการติดตั้งและการคัดเลือกอุปกรณ์แก๊สที่เป็นเกรดสูง ผ่านการรับรองมาตรฐนสากล ดังนั้น จึงมั่นใจได้ว่าสิ่งที่ลูกค้าจะได้รับคือ ความดคุ้มค่า สรรถนะอัตราเร่งดี ไม่แตกต่างจากน้ำมัน เหมาะสมกับการใช้งาน และช่วยให้ "ประหยัด" ค่าใช้จ่ายลงได้เกินครึ่งอย่างแน่นอน ทางร้านยินดีให้คำปรึกษาลูกค้าทุกท่านที่สนใจ สอบถามเพิ่มเติมได้เลย ชุดอุปกรณ์แก๊สแนะนำล่าสุด อาทิ Prins Silverline, Prins Technomax, AC และ A.E.B
อัตราสิ้นเปลืองแก๊สของ Mazda2 ติดแก๊ส จากการทดสอบตามสภาพการใช้งานจริง พบว่า อัตราสิ้นเปลืองแก๊ส จะอยู่ที่ประมาณ 0.71บาท/กม. ขึ้นอยู่กับความเร็วที่ใช้ ระยะทาง และลักษณะการขับขี่ขงแต่ละบุคคล
ติดแก๊ส Prins ดีอย่างไร? Prins คือแบรนด์ผู้ผลิตอุปกรณ์ติดตั้งแก๊สรถยนต์ LPG/CNG ที่ได้รับการยอมรับจากผู้ผลิตรถยนต์ในยุโรปมานานกว่า 35 ปี ในฐานะ "ผู้นำนวัตกรรม การติดตั้งแก๊สรถยนต์ อันดับหนึ่งของโลก" Word Leader in Alternative Fuel System เพราะด้วยจุดเด่นคือ เป็นอุปกรณ์แก๊สมาตรฐานสูงสุด "อันดับหนึ่งของโลก" มีการวิจัยพัฒนาระบบเทคโนโลยีและนวัตกรรมสำหรับการติดตั้งแก๊สรถยนต์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้โซลูชั่นใหม่ ๆ ออกมาตอบสนองความต้องการของผู้ใช้รถติดแก๊ส ช่วยแก้ไขจุดอ่อนหรือปัญหาในการใช้งานให้สมบูรณ์แบบมากขึ้น (รับรองมาตรฐานสากล อาทิ ECE R67-01, ECE R110, R115 ตลอดจนมาตรฐาน Euro5 และ Euro6)
หงษ์ทองแก๊ส ได้ร่วมกับทีมวิศวกรของ Prins Autogas (ประเทศเนเธอร์แลนด์) ในการวิจัยพัฒนา ทดสอบการติดตั้ง และปรับจูนระบบแก๊ส มานานมากกว่า 10 ปี โดยเฉพาะกับระบบเครื่องยนต์ Direct Injection (Gasoline Direct Ijnection : GDI) หรือ ระบบฉีดตรง ในรถรุ่นใหม่ ๆ ที่ผลิตและวางจำหน่ายตั้งแต่ปี 2015 เป็นต้นมา อย่างรถยนต์ Ford Focus 2.0 GDI, Ford Raptor 3.0 V6, Toyota Camry ตระกูล D4S ทั้งหมด, Mazda CX5 SkyActiv ฯลฯ จนเราได้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยม เป็น "ไฟล์จูน Online เฉพาะรุ่นรถ" ซึ่งเป็นไฟล์มาตรฐาน (Standard) ที่เหมาะกับระบบเครื่องยนต์ของรถแต่ละรุ่น โดยเราเน้นจูนในจุดที่สมบูรณ์ ปลอดภัย ทำให้อัตราเร่งดีขึ้น แต่สามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ลดการสึกหรอของระบบเครื่องยนต์ และมลพิษต่ำที่สุด ช่วยลดเวลาในการติดตั้งและปรับจูนของช่าง ทำให้ลูกค้าที่มาติดตั้งไม่ต้งรอนาน
นอกจากนั้น เรายอมรับว่าระบบแก๊สและอุปกรณ์ของ Prins ทั้งซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์ ได้ถูกคิดค้นมาอย่างดีเยี่ยม เป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ติดตั้งและใช้งานได้ดี ไม่ค่อยพบปัญหา ตลอดจนมีการจัดทำ "คู่มือการติดตั้ง" ที่เป็นมาตรฐาน และเราก็ร่วมพัฒนาคู่มือสำหรับติดตั้งกับรถยนต์ในประเทศไทย สำหรับอู่ตัวแทน Prins ทั่วประเทศอีกด้วย
สำหรับการติดตั้งงถังแก๊สในรถ Mazda2 ติดแก๊ส สามารถติดตั้งได้หลายขนาด อาทิ ถังโดนัทวางบน 42 หรือ ถังแคปซูลวางบน 58 ลิตร แต่อย่างไรก็ดีทางร้านแนะนำว่าควรเลือกติดตั้ง ถังโดนัท มากกว่า โดยถังแก๊สจะถูกติดตั้งไว้บริเวณพื้นที่ว่างท้ายรถแทนที่ยางอะไหล่ โดยเราจะมีการวัดพื้นที่และเลือกขนาดถังแก๊สที่พอดีในการติดตั้งมากที่สุดให้ลูกค้า นอกจากนั้น ยังมีการรองแผ่นยางกันกระแทกและยึดถังอย่างแน่นหนา เมื่อติดตั้งเสร็จแล้วจะทำให้สามารถวางฝาปิดหรือฝาครอบยางอะไหล่กลับไปได้อย่างพอดี โดยไม่จำเป็นต้องทำฝาครอบเสริม และไม่ทำให้ลูกค้าเสียพื้นที่วางสัมภาระด้านหลังรถ ส่วนในเรื่องมาตรฐานของถังแก๊ส จะต้องถูกกำหนดด้วย 2 มาตรฐาน คือ 1.มาตรฐาน ECE 67R-01 ซึ่งเป็นมาตรฐานของต่างประเทศ (มาตรฐานยุโรป) ดังนั้น ถังแก๊สที่นำเข้ามาจากต่างประเทศต้องมีมาตรฐานนี้ และ 2.มาตรฐาน มอก.370/… ซึ่งเป็นมาตรฐานอุตสาหกรรมของประเทศไทย ดังนั้น แนะนำว่าให้เราเป็นผู้เลือกถังในการติดตั้งแก๊สในรถของลูกค้า ถึงจะดีและเหมาะสมกับรถแต่รุ่นมากที่สุด
🚩 ศูนย์บริการมาตรฐานเทียบเท่าศูนย์รถยนต์
🚩 มาตรฐานการติดตั้งระดับสูง ด้วยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญ
🚩 บริการหลังการขาย (After Service) แบบมืออาชีพ มั่นใจในบริการของเราได้
🚩 คำนึงถึงปลอดภัยสูงสุด เราเลือกใช้อุปกรณ์ที่ตรวจสอบแล้ว มีคุณภาพและปลอดภัย
🚩 ค่าบริการที่คุ้มค่า มาตรฐานบริการ ลดค่าเชื้อเพลิง (สามารถนำเงินส่วนต่างที่เหลือ ไปใช้ประโยชน์ด้านอื่นได้มากขึ้น)